เลือดตาแทบกระเด็น กับ Visa Tier 4
สวัสดีค่ะ ผู้อ่านทุกท่าน
วันนี้ผิงขอเสนอประสบการณ์ในการขอวีซ่าไปประเทศอังกฤษ ผิงพูดไว้ตั้งแต่บทความแรกกว่าชีวิตไม่ได้โรยด้วยกลีบกุหลาบแต่โรยด้วยดอกกุหลาบ สำหรับการขอวีซ่านั้นเป็นช่วงเวลาที่ผิงเหยียบหนามกุหลาบล้วนๆ ถ้าใครอ่านpart IOM ตอนนั้นว่าทรหดแล้ว แต่เทียบไม่ได้กับPart นี้เลยค่ะ
***พร้อมแล้วไปอ่านกันเลยค่ะ***
วีซ่านักเรียนเราจะเป็นวีซ่าแบบ Tier4 นะคะ บทความนี้ผิงก็จะขอเล่าประสบการณ์ของตัวเองล้วนๆ
เริ่มจากการเตรียมเอกสาร
- สิ่งแรกที่ต้องเตรียม คือ ใส่เงินไว้ในบัญชีใดบัญชีหนึ่ง ให้ครอบคลุมค่าเทอม และค่ากินอยู่ตลอดการเรียนที่อังกฤษ // และต้องมีเงินก้อนนิ่งนอนอยู่นิ่งๆในบัญชีครบ 28 วัน ถึงจะของ Statement และ Bank letter ได้ ** ผิงเคยอ่านเจอนะ มีคนนึงเค้าไปขอตอน 27 วัน สรุปว่า วีซ่าไม่ผ่าน!!!!นะคะ **
- ใบรับรอง IOM (ที่กว่าผิงจะได้มานั้น......)
- ผลสอบ IELTS
- เอกสารส่วนตัว เช่น
- Passport ทั้งเล่มปัจจุบัน และเล่มในอดีต
- ทะเบียนบ้าน / บัตรประชาชน
- ใบเกิด
- ใบเปลี่ยนนามสกุล // ใบเปลี่ยนชื่อ
- ใบ CAS ใบนี้เราต้องได้มาจากทางมหา'ลัยที่เราจะไปเรียนต่อ จากประสบการณ์ส่วนตัวขอแนะนำว่าถ้าใครจบ ป.ตรี ตอนพฤษภาคม แล้วจะไปเรียนต่อในช่วง กรกฎาคมของปีเดียวกัน แบบผิงนั้น เอกสารจะวุ่นวายมาก เพราะบางทีมหา'ลัย ที่อังกฤษก็เรื่องเยอะ ต้องรอใบจบ // Final Transcript ถึงจะยอมออกCAS ให้ ในขณะเดียวกัน มหา'ลัยที่ไทยก็บอกว่า ต้องรอแก้ I รอคะแนนนิ่งทั้งมหา'ลัย ถึงจะออกใบจบ กับ Final Transcript ได้ โอ้ยย!!!! ทางนั้นก็จะเอา ทางนี้ก็ออกไม่ได้ แล้ววีซ่าเราล้าาาา ถ้าไปแบบเทพไม่ต้องเรียนPre-sessional ก็ไปทันค่ะ แต่ใครตกอยู่ในสถานการณ์แบบผิง แนะนำ....หายใจสบายๆไม่เร่งรีบ เตรียมตัวไปเรียนสักปีก็ดีค่ะ แถมยังได้รับปริญญากับเพื่อนๆด้วย
- ใบเชิญจากมหา'ลัย อาจจะใบOfferก็ได้
สมัครเว็ปขอวีซ่า
- ทั้งกรอกประวัติให้ครบในทุกส่วน คำถามเยอะมากๆๆค่ะ ใช้เวลาในการกรอกนะคะ ไปสมัครกันที่ https://www.visa4uk.fco.gov.uk/home/welcome
- จองวันไปยื่นวีซ่า / จ่ายเงินค่าธรรมเนียมให้เรียบร้อย
- ปริ๊นใบ Application แล้วเอามาเรียงเอกสาร
ถึงวันไปยื่น
- เตรียมเอกสารให้เรียบร้อย
- ไปที่ตึก Trendy Building แถวนานา ไปถึงก็จะมีโต๊ะอยู่ในตึกก็ไปแจ้งชื่อกับเค้า เค้าก็จะเกณฑ์เราไปชั้น 28 ค่ะ ข้างบนขึ้นไปต้องปิดเครื่องปิดเสียงโทรศัพท์ ทำตามขั้นตอนไปเรื่อยๆ ซึ่งอาจจะมีเอกสารนั้นนี้ให้เราเช็ค ต่อจากนี้จะขอเล่าเป็นเรื่องราว
- Fast track คืออะไร?
- คือ การทำเรื่องขอวีซ่าภายใน 3-5 วันทำการค่ะ ซึ่งปกติระยะเวลาอยู่ที่ 15 วันทำการ ** ไม่รวมวันไปรับเล่มนะจ๊ะ**
"ห๊า!!!!!! เงินสด"
"เดี๋ยวลงไปกดเงินข้างล่างค่อยมาจ่ายก็ได้ค่ะ" เค้าตอบ
วินาทีนั้น ซวยแล้วสิ...เอาไงดี....ผิงไม่มีบัตรATMค่ะ มีแต่บัตรเครดิต วินาทีนั้นรู้สึกร้อนรนมากๆค่ะ เอาไงดี...(คำนี้อยู่ในหัว น้ำตาอยากจะไหล ไม่รู้ทำไมแต่รู้ว่าจะไปอังกฤษครั้งนี้มีอุปสรรคตลอด) ตอนนั้นโทรหาแม่ค่ะ แม่อยู่ที่หลักสี่ แม่บอกเด๋วแม่จะออกจากบริษัทมาหาเอาเงินมาให้ แต่มาจากหลักสี่ + เกรงใจแม่ด้วย สุดท้ายผิงก็เดินไปถามพนักงานคนนึง ถามว่ายกเลิกfast trackได้ไม๊ สรุปว่ายกเลิกได้ค่ะ ผิงกลับไปที่Counter เดิมแล้วบอกเค้าว่า "ไม่มีเงินค่ะ ยกเลิกfast track" สีหน้าเค้าแบบเซ็งมาก และเค้าก็บ่นออกมาว่า "ทำไมต้อง...ด้วยว่ะ"
สุดท้ายเค้าก็โทรไปยกเลิกให้ ผิงนั่งรอเรื่องนี้ยกเลิกเกือบ 2 ชั่วโมงที่ใจไม่ดีเลย เล่นไลน์กับเพื่อนไปแก้เครียด น้ำตาก็อยากจะไหล "ทำไมชีวิตเรามันไม่ง่ายเลย"
หลังยกเลิกผิงก็ต้องเข้าไป Scan ลายนิ้วมือ แล้วถ่ายรูปติดวีซ่า คิดเอาสิหน้าผิงจะเซ็งขนาดไหนแล้วรูปนี้ต้องอยู่บนวีซ่าไปอีกนาน
ผิงยื่น วีซ่าเสร็จประมาณ 4 โมงเย็นค่ะ แล้วตอน 6 โมงเย็นก็มี ข้อความนี้มา
และผิงมีความหวังอย่างแรงกล้าว่าขอให้วีซ่า มาวันศุกร์ที่ 23 ด้วยเถอะ สักวันอังคารไปเอาเล่ม แล้ววันพุธไปเช็คอินที่สนามบิน (ผิงจองFlight ไปลอนดอน TG910 บินตอนตี 1 ) อันนี้คือฝันอันสวยหรูของผิง
นั่งๆนอนๆอยู่บ้าน เขียนBlogไปวันแล้ววันเล่า วันศุกร์ก็ยังไม่มาเริ่มใจไม่ดี วันจันทร์ก็แล้วก็ยังไม่มา
ผิงก็หาหนทาง ติดต่อสถานฑูต ค่ะ ถ้าจะส่งเมล์เสีย 5 ปอนด์ คุยโทรศัพท์มีค่าโทร และค่าOn topอีก เรียกว่าโหดสุดๆ เป็นเงินเป็นทองไปสะทุกเม็ด // แม่ผิงโทรไปที่สถานฑูตอังกฤษประจำประเทศไทย โทรไปฝรั่งรับค่ะ แม่ผิงถามไปว่า
"May I ask about Visa?" และฝรั่งก็ตอบว่า "Wrong number" และวางไปเลยจร้า มองบนถอนหายใจแรงๆ บางทีเราก็เดือดร้อนไม๊อ่า? เราก็ควรมีสิทธื์จะรู้ไม๊ว่าเรื่องของเราอยู่ไหนขั้นตอนไหน จริงไม๊ค่ะ? (หาพวก 555)
และในวันจันทร์ที่ 27 นั้นเอง ผิงกำลังจะไปอาบน้ำนอน ไปกดโทรศัพท์เล่นสักหน่อย ก็เห็นเมล์นี้ค่ะ
ผิงก็หาหนทาง ติดต่อสถานฑูต ค่ะ ถ้าจะส่งเมล์เสีย 5 ปอนด์ คุยโทรศัพท์มีค่าโทร และค่าOn topอีก เรียกว่าโหดสุดๆ เป็นเงินเป็นทองไปสะทุกเม็ด // แม่ผิงโทรไปที่สถานฑูตอังกฤษประจำประเทศไทย โทรไปฝรั่งรับค่ะ แม่ผิงถามไปว่า
"May I ask about Visa?" และฝรั่งก็ตอบว่า "Wrong number" และวางไปเลยจร้า มองบนถอนหายใจแรงๆ บางทีเราก็เดือดร้อนไม๊อ่า? เราก็ควรมีสิทธื์จะรู้ไม๊ว่าเรื่องของเราอยู่ไหนขั้นตอนไหน จริงไม๊ค่ะ? (หาพวก 555)
และในวันจันทร์ที่ 27 นั้นเอง ผิงกำลังจะไปอาบน้ำนอน ไปกดโทรศัพท์เล่นสักหน่อย ก็เห็นเมล์นี้ค่ะ
- สำหรับผู้ที่ขอ Visa ประเภทถาวร และประเภท Tier 1 ,2,4, 5 (สำหรับแต่ละ Tier เป็นไง ไปหาอ่านกันเองนะคะ มีเยอะใน Web ) ส่วนของผิงเป็นแบบ Tier4 ก็จะต้องเข้าประเภทนี้ด้วย เพื่อเป็นการตรวจสอบ และการันตี ความถูกต้องอีกครั้งหนึ่ง โดยทั่วไปการตรวจสอบก็จะมีเอกสารแนบ (ที่เห็นสำคัญคือ เอกสารทางด้านการเงิน และเลข CAS ของมหา'ลัย ว่าเราไปเรียนจริง )
- อย่างใน E-mail ข้างบน ก็ได้มีการออกเลข Visa เรียบร้อยแล้ว อันนี้เป็นการตรวจสอบเพิ่มเติมเพื่อที่จะให้สิทธิทำงานได้สัปดาห์ละไม่เกิน .......ชม. (แล้วแต่ระดับการเรียน ตามปกติ นักเรียนระดับปริญญาโทจะได้ 20 ชม.ค่ะ)
- หากมีสิ่งใดที่เกิด Error ก็ให้ทางแผนกนี่้ตรวจสอบอีกครั้งค่ะ (ประมาณนี้ค่ะ)
ผิงได้รับ Mail ในตอน 4 ทุ่มของวันจันทร์ที่ 26/06/17 ซึ่งตอนนั้นไม่มั่นใจว่าจะได้รับเล่มวันไหน เท่าที่เคยอ่าน เรื่องการขอ Visa Visitor เขาบอกว่าหลังจากได้รับ Mail จะได้รับ SMS ในวันต่อมา และอีกวันก็สามารถไปรับเล่มได้ แต่กรณีของผิงไม่เห็นมีใครเขียนว่าเคยได้รับข้อความอย่างนี้ ครั้งแรกแม่ก็คิดว่าหลังจากได้รับ Mail 2 วันทำการก็น่าจะรับเล่มได้เหมือนกัน (แต่ เอ....เราจะต้องได้รับ Mail confirm อีกครั้งหรือเปล่านะ) เลยไม่แน่ใจ ในคืนวันอังคารก็ยังไม่มีอะไรเพิ่มเติม เย็นวันอังคารเลยตัดสินใจโทรไปเลื่อนตั๋ว
การเลื่อนตั๋วการบินไทย ทำได้ไม่ยาก แค่โทรไปแจ้งที่ Call center แจ้ง Ticket No. การแจ้งสามารถแจ้งได้ภายใน 24 ชม.ล่วงหน้า หรือฉุกเฉินสุดๆ 4 ชม. ล่วงหน้า ตั๋วมีอายุ 1 ปีหลังจากวันที่ออก ถึงตอนนั้นถอดใจแล้ว ว่ายังไงวันที่ 29/06 คงไปไม่ทันแน่นอน เพราะเล่มต้องได้รับภายในวันพุธที่ 28/06 เอาชัวร์ดีกว่า แต่ว่า จะเลื่อนไปวันไหนดี ถ้าเลื่อนตั๋วจำเป็นต้องระบุวันไหม ถ้าไม่ระบุจะทำยังไงดี แต่จากที่คุยกับ Call center ทำให้ได้รู้ว่า ถ้าได้วันที่แน่นอนแล้ว ก็สามารถแจ้งหมายเลขตั๋ว และทำการจองล่วงหน้า 4 ชม. ได้เหมือนกัน (แต่เงื่อนไขจะต้องมีที่นั่งว่างถึงจะได้ไป อันนี้ต้องลุ้นเอาเอง)
และแล้วเย็นของวันที่ 29 ขณะที่กำลังนอนหลับ ผิงก็ชาร์จโทรศัพท์ไว้อีกห้องนึง แม่เดินผ่านมาดันมีเสียงมาSMS เข้าพอดี
ในที่สุดมันก็มา............เย่ๆๆๆๆ ไปรับเล่มได้แล้วค่ะ สิ้นสุดการรอคอย พรุ่งนี้ผิงก็จะไปรับเล่ม แล้วจะโทรจองตั๋วเครื่องบิน แล้วเราไปผจญภัยกันต่อ ในลอนดอนนะคะ
หลายต่อหลายครั้งค่ะ ที่ผิงคิดว่าไม่ไปมันแล้ว ไม่เอาแล้ว เหนื่อยแล้ว (ตั้งแต่ตรวจIOM // เลขCAS ไม่ยอมมาสักที // ตารางเรียนของGreenwichก็ไม่มา ** ใครเรียนGreenwich นะค่ะ ต้องเมล์ไปถามตารางเรียนนะ ในขณะที่มหา'ลัยอื่นๆจะอยู๋ใน offer ** // วันที่ยื่นวีซ่าก็มีปัญหา // รอวีซ่าออกก็นานมาก (ช่วงที่ผิงขอ เค้าว่ากันว่ากว่าจะออกนานมาก) // แล้วก่อนหน้านี้อาม่าผิงเกิดอุบัติเหตุ ) แต่ทั้งหมดผิงก็ผ่านมา ด้วยความช่วยเหลือของหลายๆคน ชีวิตไม่ได้เป็นไปอย่างภาพฝัน เพราะนี้คือชีวิตจริงที่สุขบ้าง ทุกข์บ้าง มีอุปสรรคเข้ามาให้แก้ตลอด เพื่อทดสอบตัวเราเอง
*** มีเรื่องเล่าขำๆให้ฟัง ตอนเช้าผิงก็ไปตักบาตร สายๆไปทำสังฆทานค่ะ ไม่เคยไปวัดนี้มาก่อนเลย ผิงก็ถวายเสร็จหลังจากที่พระอวยพรเราเป็นภาษาบาลี พระท่านก็ทำการอวยพรเป็นภาษาไทยต่อ ....... ทุกคนคิดว่าสิ่งแรกที่พระท่านจะพูดคืออะไรค่ะ? ....... ก็คงจะเป็น ให้มีความสุขความเจริญ แต่พระรูปนี้พูดขึ้นมาว่า "เดินทางขอให้ปลอดภัย เดินทางให้ประสบความสำเร็จ........" ผิงแอบมองหน้าแม่ -พระท่านมีญาณหรอ- คิดในใจ แล้วเค้าก็เตือนแม่ผิงว่า "ขับรถใจเย็นๆ" อึ้งไปอีกดอก 5555 แล้วเย็นวันนี้Visa ผิงก็มาจริงๆด้วย ฟังกันขำๆนะคะ เรื่องนี้ ***
ความคิดเห็น
แสดงความคิดเห็น