เตรียมตัวเรียนต่ออังกฤษ

Say Hello ถึง ผู้อ่านทุกท่านค่ะ



บทความนี้เป็นบทความแรกของหัวข้อการเรียนต่อต่างประเทศ ที่ผิงขออนุญาตแชร์ประสบการณ์ส่วนตัว 

...........แนะนำตัวกันก่อน.......

ผิงกำลังจะไปศึกษาต่อปริญญาโทที่ประเทศอังกฤษ มหาวิทยาลัยอยู่ที่ลอนดอน ก็เลยจะพาทุกๆคน ไม่ว่าจะเป็นผู้ที่มีความสนใจในการศึกษาต่อต่างประเทศ อยากไปเที่ยวอังกฤษ  ทุกคนที่กำลังมีปัญหาในการวางแผนการเดินทาง อยากอ่านรีวิวที่เที่ยวต่างๆ หรือ อยากอ่านประสบการณ์ของผิง 



ปกติผิงทำรีวิวเกี่ยวกับพวกของ Beauty ครั้งนี้เป็นการเปลี่ยนบทบาทมาเขียนเรื่องราวเกี่ยวกับอย่างอื่นบ้างหวังว่าทุกท่านจะสนุกสนานกับประสบการณ์ในการผจญภัยของผิงในครั้งนี้ 


.................... เมื่อต้องการอยากจะเรียนต่อต่างประเทศแล้ว ............................

มีเรื่องราวมากมายที่เราจะต้องจัดการ

  • เลือกคณะที่ใช่ มหา'ลัยที่ชอบ 
  • ดำเนินการขอ และเขียน เอกสารต่างๆ ไม่ว่าจะใบRecommend / SOP / CV 
  • ทำการติดต่อ สมัครเข้าเรียน (ทำสลับกับสอบ IELTS ได้)
  • สอบIELTS 
  • รอฟังOffer / รอสัมภาษณ์ จากทางมหา'ลัย
  • ตรวจตัวทำวีซ่า 
    • ตรวจ IOM
    • ยื่นวีซ่า

แค่ดูขั้นตอนอย่างคร่าวๆก็ อย่าเพิ่งท้อค่ะ คนอื่นๆทำได้เราก็ต้องทำได้เช่นกัน แต่ต้องทำใจไว้บ้างนะคะ เส้นทางไม่ได้โรยด้วยกลีบกุหลาบ เส้นทางมักจะโรยด้วยดอกกุหลาบที่มีหนามเสมอ ถึงจะเจ็บปวดแต่มองดูก็สวยงามดี และที่สำคัญเราผ่านมาได้  ประสบการณ์ของผิงก็สุดโหด เจอแล้วเศร้าเล่าแล้วขำ ไม่แพ้คนอื่นๆเลย


บทความนี้ ผิงขอเริ่มที่ การเลือกคณะที่ใช่.....มหา'ลัยที่ชอบ 


อันนี้ต้องตอบตัวเองให้ได้ก่อนว่าเราต้องการอะไร ไม่ใช่เพียงเรื่องเนื้อหาที่เราจะเรียน แต่เป็นเรื่องการใช้ชีวิต ข้อจำกัดต่างๆขอเราด้วย 


อย่างผิงเอง เลือกเรียนที่อังกฤษ เพราะว่า

  1. ตัวเองเป็นคนผิวแห้งมาก เคยไปเรียน Summer ที่LA อเมริกา (ไว้ช่วงไหนว่างๆจะมาเขียนให้อ่านนะคะๆ) ที่Los Angles อากาศจะแห้งไปไหน ผิงอยู่ไม่ไหวค่ะ หน้าเหี่ยว / ผิวเหี่ยว / ผิวลอก หมดเลย ครั้งนี้ต้องเรียน ป.โท ใช้เวลาเป็นปีเลยอยู่อังกฤษที่ดีกว่า อากาศชื้นกว่า ฝนตกบ่อย  
  2. เรียนต่อ ป.โท ที่อังกฤษ ส่วนใหญ่แล้วใช้เวลาเรียน แค่ 1 ปีเท่านั้น
  3. ไม่เคยไปยุโรป อยากไปบ้าง

ทำไมต้อง ลอนดอน

  1. อี๊ของผิงเป็นแอร์โฮสเตสของการบินไทย ก็กะว่าอี๊บินมา มาหาเราง่ายๆ อย่างน้อยก็ได้เจอญาติบ่อยๆ (แต่สุดท้าย หลังจากดำเนินการมาจนไม่สามารถจะเปลี่ยนเมืองได้ อี๊บอกว่าเดี๋ยวนี้บินไปลอนดอน เค้าใช้Air bus ซึ่งแอร์รุ่นใหญ่บางคน(อี๊)หลีกเลี่ยงการเทรนเครื่องAir bus)
  2. ไหนๆ เลือกอยู่ทั้งที อยู่ลอนดอนไปเลยยยย ณ วันที่ผิงเขียน 25/6/60 ช่วงนี้ลอนดอนมีก่อการร้ายหนักมาก แต่ทำไงได้มาถึงตรงนี้ก็ต้องไปเรียนกันแล้วล่ะ


เลือกคณะ เลือกมหา'ลัยกันบ้าง 

  1. ก่อนตัดสินใจสมัคร อ่านคอร์สของทางมหาวิทยาลัยที่เราจะสมัครด้วยนะคะ ยกตัวอย่างเช่น ผิง จะเรียนต่อจิตวิทยาเด็ก คอร์สเรียนของแต่ละมหา'ลัยก็จะต่างกันไป บางมหา'ลัยเน้นเด็กพิเศษ บางมหา'ลัยเน้นเรียนผ่านการวิจัย บางมหา'ลัยเน้นเรื่องการส่งเสริมพัฒนาการเด็ก เป็นต้น 
  2. ค่าเทอม อันนี้ประเด็นใหญ่ ประเด็นสำคัญ เลือกที่ที่เราจ่ายไหว หรือบางมหา'ลัย ที่อังกฤษบางทีเสนอให้เราเรียนต่อ มีลดแลกแจกแถม...ค่าเทอม กันอย่างกับกระหน่ำSummer Sale คือ บางมหา'ลัย อาจจะให้ทุน(บางส่วน) เพราะเกรดเราถึง / มีให้เราเขียนจดหมายขอทุนได้ มีแม้กระทั่งจ่ายภายในเดือนแรกที่เรียน ลดค่าเทอมไปอีก 5 % เป็นต้น
  3. เวลาที่เหมาะสม บางมหา'ลัยเปิดภาคเรียนตอนเดือนกันยายน (ส่วนใหญ่เปิดกันยายนค่ะ) บางมหา'ลัยเปิดช่วงมกราคม
  4. เงื่อนไขในการรับเข้าศึกษา เกรดเราถึงไม๊ คะแนนIELTSเราถึงไม๊ และบางสาขาเค้ารับพวกSpecialist หรือป่าว
  5. มหา'ลัยแต่ละที่ก็จะมีStyle ที่แตกต่างกันออกไป ยกตัวอย่างเช่น สภาพแวดล้อม บางที่ก็จะ Classic บางที่ก็จะ Modern แล้วแต่ชอบอยู่ในสภาพแวดล้อมแบบไหน 
******* แนะนำลองไปตามงานเรียนต่อต่างประเทศก็ดีนะค่ะ นอกจากจะได้ข้อมูลของมหาลัยแล้ว ยังได้ฝึกภาษาอังกฤษอีกด้วย เพราะ คนที่มาแนะนำมหา'ลัยให้กับเรา ส่วนใหญ่เป็นฝรั่งค่ะ ********



ประสบการณ์ของผิงในการเลือกหมา'ลัย กับ คณะที่ใช่กันบ้าง


ตอนแรกผิงไม่ได้ตั้งใจไปเรียนต่อ ป.โท หรอกค่ะ ขอแม่ไปเรียนภาษาอังกฤษเฉยๆ อยากไปใช้ชีวิตในลอนดอนสัก 6 เดือน แต่แม่ดันรู้ว่าเรียนป.โท ในอังกฤษเรียนแค่ปีเดียว แม่เลยไม่ยอมให้ไป ถ้าจะไป ยังไงก็ต้องไปเรียนต่อ ป.โท ก่อนจะตัดสินใจมาเรียนต่อก็ดราม่าไม่เบา จะไปช่วงไหนดี จะมาเรียนเลยไหมหลังจบป.ตรี หรือ ทิ้งไปก่อนปีนึง สรุปคือ มาเรียนเลยค่ะ เลยทำให้ไม่ได้ร่วมพิธีพระราชทานปริญญาบัตร (ชีวิตเร่งรีบมากจะแชร์ให้ฟังในบทความอื่นนะคะ) 

ผิงมีความตั้งใจอย่างแรงกล้าที่จะเรียนต่อในสาขา Evolutionary Psychology (ตอนทำProjectสุดท้ายของป.ตรี ก็ทำเรื่องนี้) ศึกษาจนได้ข้อมูลมาว่าจะเรียน  Evolutionary Psychology ที่ Brunel university แต่!!!! พอวันที่ผิงจะสมัครเท่านั้นแหละ ปิดสาขาหนีเลยจร้า 
แม่ตัดสินใจว่าเลือกมาสักที่ลูกเอาที่หนูอยากเรียน เลยต้องเลือกที่ใหม่ บางสาขาที่อยากเรียนต้องเรียนตั้ง 3 ปีแหนะ หรือหลายๆสิ่งไม่ลงตัว ผิงจบลงด้วยการยื่นสมัครไป 2 ที่ 
1. Goldsmiths University of London ในสาขา Social Relation ประมาณจิตวิทยาการปฏิสัมพันธ์ในสังคม 
2. Kingston University ในสาขา Child Psychology 

ทางGoldsmiths มีโทรมาสัมภาษณ์ด้วยนะ ผิงได้Offer อย่างมีConditionทั้งสองที่

จบด้วยคะแนน IELTS ไม่ถึงค่ะ และคิดไปคิดมาทั้งสองที่นี้ไม่ได้เป็นเราเท่าไร (บอกแล้วเส้นทางไม่ได้โรยด้วยกลีบกุหลาบ) 

สุดท้ายเลย ผิงสมัครที่ใหม่ที่เหมาะกับตัวเอง และคะแนน IELTS ถึง ผิงไปจบที่ปราสาท เดินเข้าไปในมหา'ลัยนึกว่ามาเข้าเฝ้าใคร

University of Greenwich ในสาขา Child & Adolescent Psychology 

Cr.http://www.theunipod.com/uk/university-of-greenwich


อีกสิ่งที่สำคัญมากๆ


เอเจนซี่


เจอดีก็โชคดีไปเหมือนนอนมาแล้วพร้อมบินลัดฟ้าไปเรียนเลย แต่ถ้าเจอไม่ดีก็ไม่ต่างจากทำทุกอย่างด้วยตัวเองนะคะ 

ผิงเป็นประเภทได้กลางๆค่อนไปข้อหลังบ้าง  ผิงแนะนำว่าถ้ามีคนรู้จักบอกว่าเอเจนซี่นี้ดี เค้าลองมาแล้ว เอาที่เค้าลองมาแล้วค่ะ อย่าไปเสี่ยงเอาข้างหน้า พวกเอเจนซี่เค้าจะติดต่อเรามาเองค่ะ ถ้าเค้ารู้ว่าเรามีแนวโน้มจะไปศึกษาต่อ เช่น เราไปสมัครงานเรียนต่อ เค้าก็จะมาติดต่อเราเองค่ะ



บทความแรกก็ยาวมากๆ ซะแล้ว  ไว้เจอกันในบทความต่อๆไปนะคะ

ขอให้สนุกกับการวางแผนการออกผจญภัยครั้งใหม่ในชีวิตค่ะ





 

ความคิดเห็น

โพสต์ยอดนิยมจากบล็อกนี้

ตรวจ IOM ประสบการณ์สุดโหด

เลือดตาแทบกระเด็น กับ Visa Tier 4

สอบ IELTS - เตรียมตัว + Trickในการสอบ